หมวดหมู่

Table of Contents

โบท็อกซ์หางตา คืออะไร อันตรายไหม ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โบท็อกซ์หางตา อีกหนึ่งหัตถการยอดฮิตที่เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา และรอยตีนกา มีลักษณะเป็นเส้นขีดเล็ก ๆ เพราะบ่งบอกถึงอายุผิว จะเห็นชัดขึ้นเมื่อแสดงอารมณ์ เช่น เวลายิ้ม หัวเราะ บทความนี้จะพูดถึงโบท็อกซ์หางตา คืออะไร ?ช่วยเรื่องอะไร ? อันตรายไหม ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โบท็อกซ์หางตา คืออะไร ?

โบท็อกซ์หางตา คือ การฉีด Botox (Botulinum Toxin Type A) เพื่อลดริ้วรอยบริเวณหางตา หรือที่เราเรียกกันว่ารอยตีนกา ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน เต่งตึง ไร้ริ้วรอย นอกจากนี้ในคนที่มีปัญหาตาตก คิ้วตก ก็สามารถฉีดโบยกหางตา เพื่อให้หางตายกขึ้นได้ ช่วยให้ดวงตาดูโต สดใสขึ้น

ตัวยาโบท็อกเป็นยาที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาท ที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว ไม่หดเกร็ง ผิวหนังชั้นบนก็จะคลี่ออก ไม่เกิดรอยยับ จึงช่วยลดริ้วรอยหางตาได้อย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจน เนื่องจากบริเวณรอบ ๆ ดวงตา จะมีผิวที่ค่อนข้างบางกว่าจุดอื่น ถ้าใช้เครื่องมือที่ยิงพลังงานความร้อน ก็มีไม่กี่ตัวที่สามารถใช้กับผิวบริเวณนี้ได้ ส่วนใหญ่หมอจะใช้การฉีดโบท็อกหางตา หรือการฉีดฟิลเลอร์ เพราะเห็นผลเร็วและชัดเจนกว่า 

ริ้วรอยรอบดวงตาเกิดจากอะไร ?

  • ผิวสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวบางลง ขาดความยืดหยุ่น โดยเฉพาะบริเวณหางตา เปลือกตา ที่จะมีรอยตีนกา รอยย่น
  • อายุมากขึ้น กระดูกใต้ตามีการยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดเป็นริ้วรอยใต้ดวงตา
  • ผิวขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากผิวบริเวณใต้ตามีไขมันน้อย ทำให้ผิวแห้งและเกิดรอยใต้ตาได้ง่าย
  • พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การขยี้ตา ถูตาบ่อย ๆ ยิ้มตาหยีบ่อย ๆ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ริ้วรอยหางตาหรือตีนกานั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ คนอายุน้อย ๆ มีริ้วรอยรอยตีนกาได้เหมือนกัน ถ้ามีพฤติกรรมที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอย หรือขาดการบำรุงผิว ทำให้ผิวแห้ง เสียคอลลาเจน ก็มีริ้วรอยก่อนวัยได้ครับ

โบท็อกซ์หางตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

กระบวนการที่ช่วยรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาบริเวณรอบดวงตาด้วยการทำโบท็อกซ์ โดยเป็นการฉีดเข้าไปในจุดที่เกิดริ้วรอย ตัวสารโบท็อกซ์จะเข้าไปช่วยคลายกล้ามเนื้อออก ”ทำให้ริ้วรอยบริเวณนั้นลดลงและตึงกระชับขึ้น“ โดยเฉพาะริ้วรอยเล็กๆ เช่น

  • ช่วยลดรอยย่นบริเวณหางตา
  • ช่วยลดรอยตีนกา รอยย่นใต้ตา
  • ช่วยยกหางตาในเคสที่มีปัญหาหนังตาตกได้กลับมาสดใสอีกครั้งได้โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกด้วย

โบท็อกซ์หางตา อันตรายไหม ?

ไม่อันตราย เนื่องจากในวงการแพทย์มีการใช้ในการรักษาอาการตาเหล่ หรือหนังตากระตุกมาก่อน และหากใช้โบท็อกซ์แท้ผ่านอย.ไทย ฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญยิ่งปลอดภัยมากขึ้น

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำโบท็อกซ์หางตา

  • ผู้ที่มีริ้วรอยตีนกาเมื่อแสดงสีหน้า
  • ผู้ที่ต้องการป้องกันริ้วรอยตีนกาก่อนวัย
  • ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำ
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ไว

ก่อนฉีดโบท็อกซ์หางตา เตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนฉีดโบท็อกซ์หางตา เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย ก่อนฉีดควรเตรียมความพร้อมตัวเอง ร่วมด้วยดังนี้ 

  • ก่อนฉีดโบท็อกซ์หางตา ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3-7 วัน
  • หากมียาที่กินประจำหรือโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกยกหางตา
  • งดสครับหน้าและขัดหน้า เป็นเวลา 2-3 วัน
  • หยุดทานอาหารเสริม ที่ส่งผลให้การแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา 2-3 วัน 
  • งดยาแก้อักเสบ ยาแอสไพริน ประมาณ 1 สัปดาห์
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์หางตา

หลังฉีดโบท็อกซ์หางตา การดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ดี คงผลลัพธ์การรักษาได้นาน โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

  • หลังฉีดโบท็อกซ์ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกซ์ถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของตัวของโบท็อกซ์ได้
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดที่ส่งผลให้หน้าแดง เช่น การอบซาวน่า การทานอาหารหน้าเตาร้อน ๆ ชาบู ปิ้งย่าง 
  • หลังฉีดโบท็อกซ์ควรงดนอนราบ รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ 
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่

ฉีดโบท็อกซ์หางตาใช้กี่ยูนิต ?

การฉีดโบท็อกซ์ยกหางตา จะใช้ปริมาณตัวยาไม่มาก โดยปกติแล้วจะใช้โบท็อกซ์ประมาณ 25 ยูนิต ทั้งนี้ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคนไข้ รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดของแต่ละบุคคล โดยหมอจะพิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ

ฉีดโบท็อกซ์หางตาอยู่ได้นานไหม ?

ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้ และปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้โบท็อกซ์สลายไปเร็วขึ้น เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ ตากแดด ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือการเลเซอร์ลงผิวชั้นลึก

สรุป

รอยย่นรอบดวงตา รอยตีนกา แก้ไขให้กลับมาดูสดใสได้ด้วยโบท็อกซ์หางตา ซึ่งมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีการใช้เพื่อรักษาอาการตาเหล่ หรือหนังตากระตุกมาในวงการแพทย์มาก่อน โดยคุณหมอจะประเมินปริมาณยาให้เหมาะสมแต่ละบุคคล เพื่อไม่ให้ดูตาแข็งจนเกินไป

BOTOX

ย้อนเวลาแห่งวัย คืนหน้าเรียว เริ่มต้น
฿ 6,990
  • Botox กราม
  • Botox ริ้วรอย
  • Botox หางตา
  • อื่นๆ

FILLER

เติมเต็มให้ละมุนทุกมิติ เริ่มต้น
฿ 6,990
  • ฟิลเลอร์ปาก
  • ฟิลเลอร์คาง
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา
  • อื่นๆ

MESOTHERAPY

บำรุงชั้นผิวให้ด้วยมัลติวิตามิน เริ่มต้น
฿ 2,990
  • เมโสหน้าใส
  • เมโสแฟต
  • เมโสผม
  • อื่นๆ

Would you like to share your thoughts?

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ทำไม Diode ต้องทำที่ Zigma Clinic

เส้นขนเล็กๆ เรื่องเล็กๆ ที่ไม่เล็กสำหรับคนที่เสียความมั่นใจในการแต่งตัว นอกจากขนจะทำให้ร่างกายไม่สวยงาม

Read More »

Anti-Aging ศาสตร์การชะลอวัย เพื่อสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

คุณกำลังมีอาการเหล่านี้อยู่หรือไม่? ตื่นนอนตอนเช้ารู้สึกไม่สดชื่น เหนื่อยล้าง่าย หงุดหงิดแบบไร้สาเหตุ

Read More »

เมโส (Meso) คืออะไร ? ทำไมถึงได้รับความนิยม

ฉีดเมโส หรือ เมโสเทอราปี (Mesotherapy) คือ การฉีดวิตามินต่างๆ เข้าสู่ผิวหน้า หรือ บริเวณต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

Read More »

Zigma Clinic คือคลินิกเสริมความงามที่มุ่งเน้นการรักษาคนไข้ ด้วยการใช้นวัตกรรมทางความงามปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ได้มาตรฐาน โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์เน้นให้บริการที่ตอบโจทย์กับทุกความต้องการ

Navigation

Address

ซิกม่า คลินิก 2 26 ถ. ราษฎร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240

Call Us

+66629977838

Email Address

zigmaclinic2022@gmail.com