หมวดหมู่

Table of Contents

โบท็อกซ์ยกมุมปาก คืออะไร อันตรายไหม ? 

จบปัญหามุมปากตก ปากคว่ำทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง ดูดุ บึ้งตึงอยู่ตลอดเวลา ไม่สดใส ด้วยการฉีด “โบท็อกซ์ยกมุมปาก” แล้วการฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากเหมาะกับใคร ? อันตรายไหม ? และนอกจากการใช้โบท็อกซ์ มีวิธีใดบ้างที่ช่วยยกมุมปาก ?  พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแต่ละแบบ

โบท็อกซ์ยกมุมปาก คืออะไร ?

โบท็อกซ์ยกมุมปาก คือ การเปลี่ยนมุมปากที่ตกให้ยกขึ้น แก้ไขปากคว่ำที่ทำให้หน้าดูบึ้งไม่สดใส ให้ดูเหมือนมีรอยยิ้มตลอดเวลา ใบหน้าจะดูละมุนดูเป็นมิตรมากขึ้นด้วยการฉีดโบทอกไปที่กล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Depressor Anguli Oris Muscle ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลงให้คลาย มุมปากจะดูยกมากขึ้น ถือเป็นหัตถการที่มีขั้นตอนเรียบง่ายและให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจ

ฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากเหมาะกับใคร ? 

  • ผู้ที่มีรูปปากคว่ำ หรือปากเส้นตรง
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปปากให้ดูยกขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการลดความหน้าดุ หน้าบึ้ง 
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดยกมุมปาก ไม่อยากมีแผล
  • ผู้ที่ต้องการปรับทรงปาก เสริมโหงวเฮ้งปาก
  • ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ดูเด็กลง

มุมปากตกเกิดจากอะไร ?

เกิดจากไขมัน และผิวหน้าช่วงแก้มหย่อนคล้อยลงมา ดันบริเวณมุมปากให้ตกลง เป็นผลมาจาก

  • อายุที่มากขึ้น 
  • น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว 
  • ไขมันบริเวณกะเปาะแก้มเยอะเกินไป 
  • เซลล์ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย 
  • รูปปากที่คว่ำตั้งแต่กำเนิด
โบท็อกซ์ยกมุมปาก - สาเหตุมุมปากตก

ใครบ้างที่เหมาะกับโบท็อกซ์ยกมุมปาก

  • มุมปากตกหรือมุมปากคว่ำหรือผิวมุมปากหย่อนคล้อย ทำให้หน้าดูบึ้งไม่สดใส
  • มีริ้วรอยบริเวณรอบปากหรือมุมปาก เนื่องจากอายุหรือแสดงอารมณ์มากเกินไป ผิวเป็นรอยพับชัดเจนทำให้ดูมีอายุ เรอยพับผิวหนังที่เป็นริ้วรอบปาก ฉีดโบทอกจะให้ผลลัพธ์ชัดเจนและดีที่สุด

ดังนั้นการแก้ไขด้วยฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ไข โดยหมอจะฉีดโบท็อกซ์ไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่ใช้ดึงมุมปากลง ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อที่ใช้ยกมุมปากอ่อนแรงและดูยกขึ้นเล็กๆ จึงดูสดใสขึ้น

โบท็อกซ์ยกมุมปาก อันตรายไหม ?

ไม่อันตราย แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์เป็นอย่างมาก ในการฉีดและใช้ปริมาณตัวยาให้เหมาะสมแต่ละบุคคล เพื่อให้ตัวยาไม่กระจายไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ เนื่องจากอาจทำให้ปากเบี้ยว หรือมุมปากไม่เท่ากันได้

มีวิธีใดบ้างที่ช่วยยกมุมปาก ? 

เปรียบเทียบวิธียกมุมปากแต่ละแบบ มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?

  1. การฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก

ข้อดี 

  • ยกมุมปากจากการตกของกล้ามเนื้อได้ดี 
  • ราคาไม่แพง 
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น 
  • เห็นผลค่อนข้างเร็ว

ข้อเสีย 

  • ยกมุมปากไม่ได้ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำ 
  • อาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง 
  • มีความเสี่ยงทำให้ปากเบี้ยว เสียทรง 
  1. ร้อยไหมยกมุมปาก

ข้อดี 

  • ยกมุมปากจากผิวหย่อนคล้อยลงไปดันบริเวณมุมปาก
  • ร้อยไหมยกกระชับหน้า จะช่วยดึงมุมปากไปด้วย

ข้อเสีย 

  • ร้อยไหมทั้งหน้า ไม่มีการดึงเฉพาะบริเวณมุมปาก
  1. ผ่าตัดยกมุมปาก

ข้อดี 

  • ยกมุมปากถาวร 
  • กำหนดความสูงของมุมปากที่ต้องการได้

ข้อเสีย 

  • แก้ไขทรงได้ยาก 
  • ใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน 
  • ดูแลไม่ดีอาจทำให้อักเสบติดเชื้อได้ 
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลเป็นหรือคีลอยด์ง่าย 
  1. ฟิลเลอร์ยกมุมปาก

ข้อดี 

  • หลังฉีดเห็นผลทันที 
  • ยกมุมปากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 
  • เติมเต็มผิวหรือริมฝีปากให้อวบอิ่ม เต่งตึง

ข้อเสีย 

  • อยู่ไม่ได้ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำ 

ดังนั้นแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีข้อเสียงต่างกัน หมอจะพิจารณาเลือกวิธีแก้ไขให้ตามความเหมาะสม

โบท็อกซ์ยกมุมปากทำร่วมกับวิธียกมุมปากแบบอื่นได้หรือไม่ ?

เนื่องจากมุมปากเป็นจุดเล็ก ๆ ส่วนใหญ่เลือกทำหัตถการอย่างใดอย่างหนึ่งก็เห็นผลแล้ว แต่ถ้าใครฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากมาแล้วเกิดปัญหา ปากเบี้ยว ไม่เท่ากัน ไม่เห็นผล ก็สามารถใช้วิธีอื่น ๆ ช่วยได้ครับ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ปาก

อีกกรณีคือมุมปากตกจากการหย่อนคล้อยของแก้ม ก็สามารถร้อยไหมกับฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากร่วมกัน จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์การยกมุมปากที่ชัดเจนขึ้น

หลัก ๆ คือต้องให้หมอประเมินก่อนว่าปัญหามุมปากตกของแต่ละเคสเกิดจากอะไร ก่อนจะเลือกหัตถการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละเคสโดยเฉพาะ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี มุมปากยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

การดูแลตัวเองหลังการฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก

  • ขยับปากหรือเคี้ยวหมากฝรั่งหลังการฉีดเป็นเวลา 30 นาที
  • ไม่ควรนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงความร้อนเช่น ซาวน่า โยคะร้อน หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังการฉีด 
  • อาจมีรอยช้ำ ไม่จำเป็นต้องประคบร้อน รอยช้ำจะหายไปเองใน2-3 วัน โดยปกติแล้วหลังการฉีดไม่มีรอยช้ำใดๆ
  • งดแอลกอฮอล์ อย่างน้อยสองสัปดาห์หลังการฉีด
  • งดอาหารหมักดอง ดิบ หรือมีรสจัด อย่างน้อยสองสัปดาห์หลังการฉีด
  • สามารถออกกำลังกายได้ปกติทันทีหลังการฉีด

โบท็อกซ์ยกมุมปาก ใช้กี่ยูนิต ?

ใช้ปริมาณโบท็อกซ์ไม่เยอะ หมอจะประเมินความเหมาะสมเป็นรายเคส

หลังการฉีดแล้ว กี่วันเห็นผล และต้องมาฉีดซ้ำในกี่เดือน

หลังการฉีดทันที คนไข้จะรู้สึกตึงในทันที โดยโบท็อกซ์จะแสดงผลลัพธ์ชัดเจนหลังฉีดไปแล้ว 1-2สัปดาห์  ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์จะอยู่ได้ราวๆ 4-6 เดือนขึ้นกับยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ใช้

การฉีดโบท็อกซ์ควรมารับการฉีดต่อเนื่องโดยไม่เว้นระยะเวลานานเกินกว่า 6 เดือน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อคืนสภาพดังเดิมและจะต้องใช้โบท็อกซ์ในจำนวนที่มากขึ้นด้วย  แต่ก็ไม่ควรฉีดถี่เกินไป (ต่ำกว่า 3 เดือนถือว่าถี่) อาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ 

สรุป

โบท็อกซ์ยกมุมปากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยคุณหมอที่มีประสบการณ์อย่างมาก เนื่องจากหากฉีดผิดพลาหรือใช้ปริมาณยามากเกินไป ตัวยาอาจกระจายไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ ทำให้ปากเบี้ยว หรือมุมปากไม่เท่ากันได้ คนไข้ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอประเมินว่าเหมาะสมกับหัตถการไหน

BOTOX

ย้อนเวลาแห่งวัย คืนหน้าเรียว เริ่มต้น
฿ 6,990
  • Botox กราม
  • Botox ริ้วรอย
  • Botox หางตา
  • อื่นๆ

FILLER

เติมเต็มให้ละมุนทุกมิติ เริ่มต้น
฿ 6,990
  • ฟิลเลอร์ปาก
  • ฟิลเลอร์คาง
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา
  • อื่นๆ

MESOTHERAPY

บำรุงชั้นผิวให้ด้วยมัลติวิตามิน เริ่มต้น
฿ 2,990
  • เมโสหน้าใส
  • เมโสแฟต
  • เมโสผม
  • อื่นๆ

Would you like to share your thoughts?

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

เมโสแฟต (Meso Fat) สลายไขมันเฉพาะจุด หน้าเรียวสะใจ ไม่ต้องพึ่งโบ

แก้มย้อย เหนียงเยอะ มีคางสองชั้น อาจเป็นปัญหาของใครหลายคนที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ โดยเมโสแฟตเป็นหนึ่ง

Read More »

Zigma Clinic คือคลินิกเสริมความงามที่มุ่งเน้นการรักษาคนไข้ ด้วยการใช้นวัตกรรมทางความงามปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่ได้มาตรฐาน โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์เน้นให้บริการที่ตอบโจทย์กับทุกความต้องการ

Navigation

Address

ซิกม่า คลินิก 2 26 ถ. ราษฎร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240

Call Us

+66629977838

Email Address

zigmaclinic2022@gmail.com